ในตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์นี้เรียกได้ว่าลีกที่ช็อปนักเตะมากที่สุดจนเป็นที่พูดถึงมากมาย นั่นก็คือ ลีกซาอุดิอาระเบีย โปรลีก และ นักเตะแต่ละคนที่ย้ายไปร่วมทัพไม่ใช่หมู ๆ แต่ละคนที่ไปล้วนเป็นสตาร์ดังระดับโลกกันทั้งนั้น เรียกได้ว่าเงินแดนน้ำมันดิบมันหอมหวานเย้ายวนล่อใจนักเตะกันจริง ๆ
โดยดีลล่าสุดก็เป็นทางประตูมือ 1 ทีมชาติโมร็อกโก วัย 32 ปี นามว่า ยาสซีน บูนู ที่ตกลงย้ายจาก เซบีย่า เพื่อไปเฝ้าเสาให้กับ อัล-ฮิลัล ด้วยค่าตัวรวมแอดออนราวๆ 21 ล้านยูโร เซ็นสัญญาเป็นระยะเวลา 3 ปี นั่นทำให้เขาจะได้ร่วมทีมกับนักเตะซุเปอร์สตาร์ดัง ๆ ระดับโลกที่ย้ายไป อัล-ฮิลัล ก่อนหน้านี้ นั่นก็คือ เนย์มาร์ จูเนียร์ เกมรุกทีมชาติบราซิล คาลิดู คูลิบาลี ปราการหลังทีมชาติเซเนกัล รูเบน เนเวส มิดฟิลด์ทีมชาติโปรตุเกส มิลินโควิช-ซาวิช มิดฟิลด์ทีมชาติเซอร์เบีย เรียกได้ว่าอัล-ฮิลัล เสริมครบทุกตำแหน่ง ไม่ว่าจะเป็น ผู้รักษาประตู , กองหลัง , กองกลาง , กองหน้า
โดย ยาสซีน เป็นประตูมือ 1 ของทีมชาติโมร็อกโก และ สโมสรเซบีย่า มาตลอด เขาย้ายจากจิโรน่ามาเฝ้าเสาให้เซบีย่าเมื่อปี 2019 เขาพา เซบีย่า คว้าแชมป์ยูฟ่า ยูโรปาลีก ถึง 2 ครั้ง นั่นก็คือฤดูกาลแรกที่ย้ายมา และก็ฤดูกาลล่าสุดที่เขาเซฟให้ เซบีย่า เอาชนะจุดโทษหมาป่ากรุงโรมโรม่าด้วยสกอร์ 4-1 คว้าแชมป์ยูโรป้าไปครองได้สำเร็จเป็นสมัยที่ 7 จุดเด่นของเขาคือการเซฟบอล และ ที่เด่นสุดๆก็คือการเซฟจุดโทษ เขาเป็นประตูที่สูงถึง 195 เซนติเมตร เขามีชื่อพูดถึงทั่วโลกหลังจบฟุตบอลโลกปี 2022 ที่ผ่านมา
โดยเขาลงเฝ้าเสาให้โมร็อกโกมาตลอดซีซั่นบอลโลก ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ทัพโมร็อกโก เสมอกับสเปน 0-0 ใน 120 นาที แต่ในการดวลจุดโทษ Yassine Bounou เซฟลูกยิงของนักเตะทีมชาติสเปน ทำให้โมร็อกโก ชนะไปด้วยสกอร์ 3-0 ในรอบ 8 ทีมสุดท้าย เขาเซฟลูกยิงของนักเตะท็อปๆของทีมชาติโปรตุเกสมากมาย ทำให้ทีมชนะไปด้วยสกอร์ 1-0 ในรอบ 4 ทีมสุดท้าย เขาทำเต็มที่แล้วแต่เกมรุกฝรั่งเศสคมจริงๆทำให้แพ้ฝรั่งเศสไปด้วยสกอร์ 2-0 โมร็อกโก ต้องเข้าไปชิงที่ 3 กับโครเอเชีย แต่ก็เป็นทางโครเอเชียชนะด้วยสกอร์ 2-1 โมร็อกโกคว้าอันดับ 4 ในบอลโลกปีที่ผ่านมา เรียกได้ว่าเป้นม้ามืดสุดๆ และส่วนหนึ่งที่ทำให้โมร็อกโกมาไกลขนาดนี้นั่นก็คือการเซฟของ ยาสซีน บูนู นั่นเอง